ตังเหนียนหมิงเย่ว์ ผู้เขียนชาวจีนยุคปัจจุบัน (เกิด ค.ศ. 1978) สนใจเรื่องราวในอดีตหลายร้อยปีก่อน บรรดาเรื่องที่ว่าด้วยราชวงศ์หมิง อ่านพบความขื่นแค้นและการลุกฮือของผู้คน ความรุ่งเรืองของอาณาจักร และโศกนาฏกรรมของราชวงศ์ เห็นด้านมืดด้านสว่างไหลเวียนในความเป็นมนุษย์
เขาบันทึกการอ่านและเผยแพร่ทางเว็บไซต์ ต่อมาได้รับการจัดพิมพ์เป็นหนังสือเล่มเป็นชุด ขายดีระดับห้าดาว ได้รับรางวัลหนังสือดีเด่น และเป็นหนังสืออ่านนอกเวลาในจีน
ประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิงที่ถูกสืบสวน สอบทาน และตีความ โดยตังเหนียนหมิงเย่ว์ (当年明月) รวมอยู่ในหนังสือชุด “ย้อนอดีตราชวงศ์หมิง”《明朝那些事儿》นี้ จะชวนให้ผู้อ่านรับรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิงพร้อมกับมุมมองการวิเคราะห์หลักฐานและวิเคราะห์จิตใจบุคคลในประวัติศาสตร์ ให้เห็นว่าเรื่องราวทั้งหลายนี้หาใช่เรื่องของคนอื่นคนไกลหรือเรื่องไกลตัว มิใช่เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องเฉพาะในหมู่ชนชาวฮั่นหรือชาวจีน มิใช่เรื่องตีแผ่ปมเขื่องจากเกียรติคุณและอำนาจอันเกรียงไกร และมิใช่เรื่องเปิดเผยจุดบอดจากด้านมืดในมนุษย์ที่หาใช่เพียงคนในราชสำนักหรือฝ่ายกุมอำนาจปกครองเท่านั้นที่จะมี แต่คือบรรดาเรื่องที่อาจเกิดขึ้นได้ในใจแต่ละคน
คำว่า ‘明’ (หมิง) มีความหมายว่า สว่าง คำนี้อยู่ในแนวความคิดของคนกลุ่มหนึ่งที่ต้องการมีชีวิตที่ดีกว่าเดิม เปรียบว่านั่นเป็น “ยุคสว่าง” (ตรงข้ามกับ “ยุคมืด”) ที่หมายมุ่งไปสู่
“ยุคสว่าง” โดยนัยคือความแจ่มแจ้งในปัญญา หาใช่การกระทำเชิงสัญลักษณ์บางเบา เพิกเฉยไม่กระทำการอันควร หรือหลงเพ้อเฝ้ารอการมาถึงของบางสิ่งไปเรื่อยๆ
ทว่า การไปสู่ “ยุคสว่าง” นั้นกระทำอย่างหวังผล ค่อยเป็นค่อยไป
ระหว่างทาง มีข้อคิดให้ใคร่ครวญเรื่อยมาว่า เสียงแซ่ซ้องสรรเสริญอำนาจบารมีชั้นฟ้ากึกก้องเพียงใดเล่าจะกลบเสียงท้องร้องของแต่ละคนได้ คนในเครื่องแบบมิใช่ปุถุชนผู้มีกิเลสหรือ ใช่หรือที่ผู้นำแต่เพียงผู้เดียวคือผู้ต้องกระแสคลื่นลมอุปสรรค การลงโทษประหารชีวิตคนแก้ปัญหาสังคมได้จริงหรือ ฯลฯ
แต่ละคน ไม่ว่าสกุลใด นับแต่วันที่หมายมุ่งไปสู่ชีวิตที่ดีกว่าเดิม ล้มแล้วลุกมากี่ครั้ง พลาดพลั้งมากี่หน ชะล้างและลอกมายาคติออกไปกี่ชั้น ปลุกขวัญและปลอบใจมากี่คราว ใช้อำนาจต่อรองกันไปกี่มากน้อย สูญเสียอะไรไปบ้าง เรื่องทั้งหลายนั้นใช่หรือไม่ว่ายังคงว่าด้วยการมุ่งหน้าไปสู่ทางสว่าง